เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 11.00-20.00 | วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 10.00-20.00
  06 3868 9925 | 02 853 3863
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 11.00-20.00
วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 10.00-20.00
  06 3868 9925 | 02 853 3863
#

💥ข้อแนะนำในการปฏิบัติตน … เพื่อผลการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด !!!

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้นิยามว่า “สุขภาพที่ดี” คือ สภาวะสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม (physical, mental and social well-being) ทั้งนี้ ทุกคนมีโอกาสเจ็บป่วยได้ หากใครมีอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ ทั้งผู้ป่วยและครอบครัวควรทำความเข้าใจและยอมรับว่า อาการเจ็บป่วยย่อมมีสาเหตุ เช่น เป็นความผิดปกติทางสมอง ไม่ใช่ความผิดของผู้ป่วย เป็นต้น ทุกคนจึงควรเปิดใจ “พูดกัน … ฟังกัน … เข้าใจกัน” และยอมรับในสิ่งที่ผู้ป่วยเป็น หลีกเลี่ยงการตำหนิ และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หากเจ็บป่วยก็รักษาและปฏิบัติตนตามที่แพทย์แนะนำ จะช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข

🔥 สาเหตุของปัญหาสุขภาพจิตเกิดได้จากหลายปัจจัยที่มีความซับซ้อนและสัมพันธ์กัน ดังนี้

  1. ปัจจัยทางชีวภาพ (Biological Factors) : พันธุกรรม, ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) , โดพามีน (Dopamine) ฯลฯ
  2. ปัจจัยทางจิตใจ (Psychological Factors) : การเลี้ยงดูจากครอบครัว, ประสบการณ์ในวัยเด็ก, ปฏิสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ฯลฯ
  3. ปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social & Environmental Factors) : ปัญหาความยากจน รายได้ไม่เพียงพอ, การถูกกีดกัน เลือกปฏิบัติ, การบูลลี่ ฯลฯ

📕 แนวทางการรักษา และ ข้อแนะนำในการปฏิบัติตน เพื่อผลการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด เนื่องจากโรคทางจิตเวช “รักษาได้” แต่ไม่ใช่ทุกคนจะหายขาด ขึ้นกับสาเหตุและการวินิจฉัยโรค รวมทั้งความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือในการปฏิบัติตน กรณีของผู้ป่วยบางรายที่ต้อง “กินยาต่อเนื่อง” ช่วยปรับสารเคมีในสมอง ซึ่งจะช่วยควบคุมอาการในระยะยาวได้ดี ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีใกล้เคียงกับคนปกติทั่วไป สรุปข้อควรปฏิบัติที่สำคัญ มีดังนี้

✅ การกินยาตามแพทย์สั่ง : เนื่องจากยาส่วนใหญ่จะเป็น “ยาควบคุม” ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ต้องอยู่ภายใต้การดูแลรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง => ปัญหาที่พบ คือ ผู้ป่วยหรือญาติจะสั่งการรักษาตนเอง เมื่อได้รับยามาทานแล้วอาการดีขึ้น มักจะปรับ/เปลี่ยน/เพิ่ม/ลดหรือหยุดยาเอง ทำให้มีอาการกำเริบ รุนแรง เรื้อรัง ต้องเสียเวลาเริ่มต้นการรักษาใหม่หรืออาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เกิดอารมณ์แปรปรวน เป็นอันตรายทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม

✅ การมาพบแพทย์ตามนัด : เพื่อช่วยตรวจ ประเมินอาการ และปรับแผนการรักษาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาชนิดหรือขนาดเดิมตลอดชีวิต => ปัญหาที่พบ คือ ผู้ป่วยและญาติ ไม่ยอมรับความเจ็บป่วย จึงปฏิเสธการรักษา ไม่ติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง จะกลับมาขอพบแพทย์เมื่อมีอาการกลับซ้ำ (Relapse) หรือ กลับป่วยใหม่ (Recurrence) แต่ไม่สามารถหาคิวพบแพทย์ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนได้ ทำให้เกิดอาการกำเริบ รุนแรง และเรื้อรัง จนยากจะเยียวยา เป็นอันตรายทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม

✅ หลีกเลี่ยงสารเสพติดและแอลกอฮอล์ : เมื่อผู้ป่วยและญาติไม่ยอมรับความเจ็บป่วย ==> จึงรักษาอาการตนเองโดยหลงเชื่อและหลงผิดว่า การใช้สารเสพติด เช่น กัญชา ฯลฯ รวมถึงการสั่งซื้อยาทางออนไลน์หรือตลาดมืด ซึ่งไม่มีการรับรองคุณภาพและมาตรฐานการผลิต ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้รับสารเสพติดแทน ทั้งนี้ สารเสพติดจะไปรบกวนการรักษา ทำให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการรักษาลดลง เกิดปฏิกิริยาข้างเคียง ส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ สมองเสื่อม มีพฤติกรรมเสี่ยง และมีอาการทางจิต เช่น หูแว่ว ประสาทหลอน ฯลฯ เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยทั้งของตนเอง ครอบครัว และสังคม

❤️ พิชญานิน คลินิก (คลินิกสุขภาพใจ) ชั้น 3 ศูนย์การค้า พาราไดซ์พาร์ค (สวนหลวง ร.9) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 20.00 น.

☎️ inbox ขอคำปรึกษาหรือทำนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 06-3868-9925 หรือ LINE: @pichayaninclinic / Line https://lin.ee/GiDkelu หรือ Website www.pichayaninclinic.com