ทำไมคนหนึ่งคนจึงสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ จนได้รับการขนานนามว่า ”ทูตสื่อวิญญาณ“ ???

ฑูตสื่อวิญญาณ จะมีการบริหารจัดการภาพลักษณ์ (Persona Management) ให้ดูน่าเชื่อถือ ไม่ก้าวร้าวหรือโอ้อวดเกินไป ทำตัวเสมือนเป็นผู้ที่ “รับใช้วิญญาณ” มากกว่า “แสวงหาผลประโยชน์“ จะเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจคน (Charismatic) จะสื่อสารด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน มีความเข้าอกเข้าใจสูงและใช้สัญชาตญาณเก่ง (Empathic & Intuitive) รับฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) จึง “อ่านใจคน” ได้ดี ทำให้เกิดความเชื่อและศรัทธาได้ง่าย

ในมุมมองจิตวิเคราะห์ … หากใครอยากรู้หรือล้วงความลับของใคร ไม่จำเป็นจะต้องไปซักถาม สร้างความกดดัน ยิ่งถามยิ่งไม่ได้คำตอบ แค่ใช้ “เทคนิคการล้วงความลับโดยไม่ต้องถาม” (Elicitation Techniques) ซึ่งเป็นกระบวนการหรือวิธีการที่กระตุ้นให้บุคคลเปิดเผยข้อมูลโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้บังคับหรือข่มขู่ แค่ป้อนข้อมูลผิด ๆ หรือ ใช้ประโยคบอกเล่าที่ไปกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม ความรู้สึก หรือการตอบสนองโดยอาจตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ได้

📕 เทคนิคการล้วงความลับโดยไม่ต้องถาม จะใช้ได้ผลดีกับบุคคลกำลังมีปัญหาหรือความทุกข์ใจ สับสน ฟังน้อย ขาดสติ ไร้วิจารณญาณ โดย

1. สร้างบรรยากาศ เพื่อละลายพฤติกรรม (Small Talk) ก่อนจะโยงเข้าสู่การพูดคุยเรื่องประเด็นที่เป็นเป้าหมาย
2. ใช้การถามแบบไม่ถาม (Indirect Questions) โดยใช้ประโยคบอกเล่าแล้ว “โยนข้อมูลผิด ๆ” เพื่อให้เขาแก้ไขหรือขยายความเพิ่ม
3. การฟังเชิงลึก (Active Listening) ฟังทั้งสิ่งที่เขาพูดและต้องได้ยินในสิ่งที่เขาไม่ได้พูดเช่นกัน โดยการฟังจากภาษากาย เช่น สีหน้า แววตา เป็นต้น
4. การยกย่องชื่นชม (Ego Boosting) ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและยิ่งให้ข้อมูลมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
5. การสะท้อนคำ (Echo or Mirroring) การทวนคำสำคัญและตรวจสอบข้อมูล เพื่อการเชื่อมโยงเรื่องราวและบังคับให้เขาขยายความต่อโดยไม่รู้ตัว
6. ใช้ความเงียบ เพื่อเปิดประตูใจ (Strategic Silence) จะช่วยกระตุ้นให้เขาพูดต่อเพื่อกลบความเงียบ
7. ปิดการสนทนาอย่างมั่นใจ สรุปเรื่องที่ได้พูดคุยกันอย่างตรงประเด็น ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธา

⚠️ ข้อควรระวัง : “เทคนิคการล้วงความลับโดยไม่ต้องถาม” (Elicitation Techniques) ถ้าใช้ทักษะนี้อย่าง “มืออาชีพ” จะมีวัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสารที่สร้างสรรค์ที่ช่วยเยียวยาความทุกข์ในจิตใจ หากใช้ทักษะนี้อย่าง “มิจฉาชีพ” ทำผิดจริยธรรม หลอกลวงให้คนงมงาย ล่อลวงให้คนมอบสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น เงิน, รถ, บ้าน เป็นต้น ถือเป็นภัยสังคมที่ร้ายแรง จัดเป็น “อาชญากรรมสีขาว“ (White-collar crime) คือ การกระทำผิดกฎหมายที่ไม่ใช้ความรุนแรงทางกายภาพ แต่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง หรือการละเมิดความไว้วางใจ, การฉ้อโกง (Fraud), การยักยอกทรัพย์ (Embezzlement), การปลอมแปลงเอกสารหรือบัญชี, การฟอกเงิน (Money laundering) เป็นต้น ซึ่งถือเป็นความผิดที่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย