เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 11.00-20.00 | วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 10.00-20.00
  06 3868 9925 | 02 853 3863
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 11.00-20.00
วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 10.00-20.00
  06 3868 9925 | 02 853 3863
#

💥 พ่อแม่รังแกฉัน : ตอนลูกไม่ใช่ตัวประกัน !!!

เมื่อคนสองคนที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันในฐานะสามีภริยา หากมีลูกด้วยกัน … ถึงแม้จะแยกย้ายหย่าร้างตัดขาดความสัมพันธ์กัน แต่บทบาทและหน้าที่ในฐานะพ่อและแม่ของลูกจะไม่มีวันสิ้นสุด คำถาม คือ ลูกจะอยู่กับใคร ใครจะมีสิทธิ์ในการดูแลลูก ใครจะรับผิดชอบค่าเลี้ยงดูและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งคำถามต่าง ๆ นั้นไม่สำคัญเท่ากับปัญหาที่พ่อและแม่ที่หย่าร้างกันไปแล้ว แต่กลับใช้ลูกเป็น “ตัวประกัน” เป็นเครื่องมือในการต่อรองกันหรือทำร้ายกันอีก เช่น บังคับ/ข่มขู่/กดดันให้ลูกต้องเลือกข้าง, ขัดขวางไม่ให้ลูกเจออีกฝ่าย, ปลูกฝังให้ลูกเกลียดชังอีกฝ่าย, ใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการฟ้องร้องเพื่อเอาผิดหรือหาผลประโยชน์กับอีกฝ่าย ฯลฯ ส่งผลเสียกระทบต่อสภาพจิตใจของทั้งลูกและตัวพ่อแม่เองอย่างรุนแรง

ปัญหาของพ่อและแม่ที่หย่าร้างกัน … มีหลายคู่จบกันด้วยดี แค่เปลี่ยนสถานะจากสามีภริยามาเป็น “กัลยาณมิตร” กัน แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่จบไม่ลง นอกจากจะกดดันลูกให้เลือกข้างมาอยู่ฝ่ายตนแล้วยังลืมตัวมาสร้างความกดดันกับจิตแพทย์เด็กให้ออกใบรับรองแพทย์ระบุว่า “ลูกป่วยทางจิต” เพราะอีกฝ่าย เพื่อนำไปใช้สู้คดีในชั้นศาล ซึ่งการฟ้องร้องเพื่อแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูลูก (Custody Battle) ส่วนใหญ่จะเป็นคดีฟ้องร้องที่ไม่มีใครยอมใคร จะใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งพ่อและแม่อาจหมดพลังและหมดเงินไปกับการต่อสู้จนละเลยการเลี้ยงดูและไม่ใส่ใจความทุกข์ใจ อารมณ์ความรู้สึกของลูก การอยู่ในกระบวนการฟ้องร้องทำให้ทุกคนเกิดความเครียด วิตกกังวล และรู้สึกโกรธแค้น ยิ่งนานวันความสัมพันธ์ยิ่งร้าวฉาน ยากที่พ่อและแม่จะกลับมาอยู่ในจุดที่ร่วมมือกันเพื่อช่วยกันเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจจากลูกที่เป็นเด็กปกติแต่พ่อและแม่ตีตรายัดเยียดความผิดปกติจนลูกกลายเป็นเด็กที่ป่วยทางจิต ทำไมพ่อและแม่ผู้ให้ชีวิตลูกกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายลูกให้ “ตายทั้งเป็น” ???

📕 กลไกทางจิตของพ่อและแม่ที่ใช้ลูกเป็นตัวประกัน

1️⃣ มีการฉายภาพความรู้สึก onto ลูก (Projective Identification) เมื่อพ่อแม่ที่มีปัญหากัน ต้องหย่าร้างกัน แต่จบกันไม่ลง จบกันแบบไม่สวย จึงใส่ความโกรธ ความผิดหวัง หรือความอับอายในความล้มเหลวของชีวิตคู่ให้ลูก ลูกจึงกลายเป็น “แพะรับบาป” เป็นตัวแทนความขัดแย้งของพ่อและแม่

2️⃣ ความต้องการควบคุม (Control and Possession) การใช้ลูกเป็นเครื่องมือ คือ วิธีในการควบคุมอีกฝ่าย โดยพ่อและแม่อาจคิดว่า “ถ้าใครได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูก คือ ผู้ชนะ” นี่สะท้อนถึงการขาดวุฒิภาวะ (Psychological Immaturity) ไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อและแม่ของใคร ยึดเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง (Self-Centered) กลัวการสูญเสียและการขาดอำนาจทางอารมณ์ เป็นความเห็นแก่ตัว (Selfish) และความขลาดกลัว การแย่งลูกจึงไม่ใช่ความรักความห่วงใยลูกอย่างแท้จริง แต่เป็นการสนองตัณหาของตนเอง

3️⃣ ความขัดแย้งที่ไม่ได้แก้ไข (Unresolved Conflict) หากพ่อและแม่ที่หย่าร้างกันแต่ยังโกรธกันหรืออายและเจ็บปวดจากความล้มเหลวในชีวิตคู่ จึงนำความรู้สึกนั้นไปลงกับลูกให้ลูกกลายเป็น “ตัวแทนความขัดแย้ง” จะแก้แค้นกันโดยไม่คำนึงถึงลูกว่าจะรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ทรมานจิตใจเพียงใด

📕 ในมุมจิตวิเคราะห์ พฤติกรรมของพ่อและแม่จะส่งผลเสียกระทบต่อสุขภาพจิตเด็ก ดังนี้

1️⃣ ความขัดแย้งภายใน (Internal Conflict) : ทำไมต้องกดดันให้เด็กต้องเลือกรักใคร? ระหว่างจะรักพ่อหรือแม่? ทำให้เด็กเครียดเกิดความรู้สึกผิด (Feelings of Guilt) และความสับสนในตัวเอง (Self-Confusion)

2️⃣ ความสัมพันธ์แบบแยกส่วน (Split Object Relations) : เด็กอาจมองพ่อและแม่เป็นคน “ดี” หรือ “เลว” อย่างสุดขั้ว เพราะเรียนรู้พฤติกรรมที่สุดขั้วจากพ่อและแม่เช่นกัน

3️⃣ พัฒนาการและการใช้กลไกทางจิต (Development and Defense Mechanisms) เด็กอาจพัฒนากลไกป้องกันตัวโดยใช้วิธีการหลีกเลี่ยง การปฏิเสธ การเก็บตัว หรือการก้าวร้าว เป็นต้น

4️⃣ ปัญหาสุขภาพจิตจากบาดแผลทางจิตใจ เช่น ปัญหาภาพลักษณ์ตนเอง (Self-Image), ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เด็กอาจเรียนรู้ว่าความรักผูกพันมักมาพร้อมความขัดแย้งและการควบคุม, เกลียดพ่อและแม่ (Parental Alienation) เด็กจึงตัดความสัมพันธ์กับพ่อและแม่โดยไม่เข้าใจเหตุผลจริง ๆ ซึ่งจะกระทบต่อการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว เป็นต้น

📕 แนวทางป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิตเด็ก มีดังนี้

✅ แยกปัญหาคู่สมรสออกจากการเลี้ยงลูก : พ่อและแม่ควรเข้าใจว่า “เลิกเป็นสามีภริยาได้ แต่เลิกเป็นพ่อและแม่ไม่ได้” ดังนั้น พ่อและแม่จึงควรพูดคุยกันเรื่องลูกด้วยเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ และร่วมมือกันทำหน้าที่พ่อและแม่ให้ความรักความอบอุ่น ส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกเติบโตมาเป็นคนที่มี “คุณภาพ” และมี “สุขภาพจิตที่ดี” เช่น “พ่อและแม่ยังรักลูกเหมือนเดิม ถึงแม้พ่อและแม่จะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน“ ฯลฯ เพื่อตัดวงจรอุบาทว์ที่ส่งผลให้ลูกล้มเหลวในการสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น

✅ ยึดประโยชน์สูงสุดของลูกเป็นศูนย์กลาง (child-centered approach) ให้ลูกมีสิทธิ์รักทั้งพ่อและแม่โดยไม่ต้องเลือกข้าง และรับฟังความรู้สึกของลูก ให้ลูกมีพื้นที่ระบายความรู้สึก โดยไม่ตัดสิน และไม่ใช้ลูกเป็นคนส่งสาร เช่น “ไปบอกพ่อ/แม่ให้หน่อยว่า …” เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่ส่งผลกระทบต่อการเรียน, การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น, ความเครียด, ซึมเศร้า เป็นต้น

✅ ขอรับคำปรึกษา การไกล่เกลี่ย หรือ การเจรจาเพื่อร่วมกันวางแผนเลี้ยงลูก (co-parenting plan) ถึงแนวทางป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิตทั้งของลูก พ่อและแม่ เช่น จิตแพทย์, นักจิตวิทยา, นักสังคมสงเคราะห์, ศาลเยาวชน ฯลฯ

เพราะตำแหน่ง “พ่อและแม่” มีจุดเริ่มต้นแต่ไม่มีวันสิ้นสุด …. วันนี้คุณได้ทำหน้าที่พ่อและแม่หรือยัง???

❤️ พิชญานิน คลินิก (คลินิกสุขภาพใจ) ชั้น 3 ศูนย์การค้า พาราไดซ์พาร์ค (สวนหลวง ร.9) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 20.00 น.

☎️ inbox ขอคำปรึกษาหรือทำนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 06-3868-9925 หรือ LINE: @pichayaninclinic / Line https://lin.ee/GiDkelu หรือ Website www.pichayaninclinic.com