ในยุคที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้อมูล ข่าวสาร และกระแสใหม่ ๆ สื่อต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย หลายคนอาจเริ่มรู้สึก “เฉย ๆ” กับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ไม่อิน ไม่ตื่นเต้น ไม่สะเทือนใจ ไม่รับรู้ ไม่ยินดียินร้ายเหมือนแต่ก่อน
นี่อาจเป็นสัญญาณของสิ่งที่เรียกว่า “ภาวะด้านชาทางความรู้สึก” (Emotional Numbness) ซึ่ง Emotional Numbness ไม่ได้แปลว่าเป็นคนไร้หัวใจหรือไม่มีความรู้สึกใด ๆ เลย แต่เป็นภาวะที่จิตใจของเราปิดกั้นอารมณ์ ทั้งความสุข ความเศร้า หรือความเจ็บปวด ราวกับถูก “แช่แข็ง“ ความรู้สึกต่าง ๆ เอาไว้ชั่วคราว เพื่อป้องกันตัวเองจากอารมณ์ที่รุนแรงเกินไป ถ้าลองนึกถึงเวลาที่เราชาที่แขนหรือขา เราจะ “รับรู้ไม่ได้” ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แม้จะสัมผัสอยู่ก็ตาม ความรู้สึกชาทางอารมณ์ก็เช่นเดียวกัน เราอาจรับรู้ว่า “นี่เป็นเรื่องดี” หรือ “นี่ควรจะเศร้า” แต่กลับ “ไม่รู้สึก” อะไรเลย
แล้วมันต่างจากภาวะซึมเศร้าหรือโรคทางจิตเวชอย่างไร?
หลายคนเข้าใจผิดว่า Emotional Numbness คืออาการของโรคทางจิตเวชโดยตรง ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่ใช่โรค แต่เป็นกลไกการป้องกันตัวทางจิตใจ เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่มากระทบจิตใจอย่างต่อเนื่อง เช่น เครียดสะสมจากงานหรือครอบครัว การสูญเสียคนรัก การพบเจอกับเหตุการณ์สะเทือนใจ หรือแม้แต่การเสพข่าวร้ายบ่อย ๆ ในโซเชียลมีเดีย
ในบางกรณี Emotional Numbness อาจเป็น “ผลลัพธ์” จากภาวะทางจิต เช่น โรคเครียดหลังเหตุการณ์ร้ายแรง (Post-Traumatic Stress Disorder : PTSD), โรคซึมเศร้า หรือ ผลจากการใช้สารเสพติด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีภาวะนี้แล้วจะเป็นโรคจิตเวชเสมอไป หากไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นอยู่ปัจจุบันจะเข้าข่าย “ภาวะด้านชาทางความรู้สึก” หรือไม่ สามารถพบจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ช่วยตรวจ ประเมิน และวินิจฉัยโรค เพื่อวางแผนการดูแลรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
❤️ พิชญานิน คลินิก (คลินิกสุขภาพใจ) ชั้น 3 ศูนย์การค้า พาราไดซ์พาร์ค (สวนหลวง ร.9) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 20.00 น.
☎️ inbox ขอคำปรึกษาหรือทำนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 06-3868-9925 หรือ LINE: @pichayaninclinic / Line https://lin.ee/GiDkelu หรือ Website www.pichayaninclinic.com