ปัจจุบันพบรูปแบบของความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ (Situationship) คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่กิ๊ก แต่จะกั๊กไว้ จะรักก็ไม่รัก จะทิ้งก็ไม่ทิ้ง ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกร่วม ไม่มีการวางแผนเรื่องอนาคต แค่มาอยู่ด้วยกัน ซุกหัวนอนในห้องเดียวกัน มีอะไรกันบนเตียง แต่ไม่ต้องคาดหวังการห่วงใยดูแลกัน แค่อยู่กันไปวันๆ แบบ งงๆ สรุปไม่รู้เราเป็นอะไรกันแน่???
คนปกติเมื่อคิดจะคบกับใคร ก็จะใช้เวลาร่วมกัน เรียนรู้กัน แชร์ริ่งแบ่งปันสุขและทุกข์กัน มี “การยกระดับความสัมพันธ์” (The Relationship Escalator) ที่จะพัฒนาและก้าวไปตามลำดับที่ควรจะเป็น ตั้งแต่เริ่มทำความรู้จักกัน คบกันเป็นแฟน เป็น “คู่รัก” กัน แต่งงานเป็น “คู่ใจ” กัน ใช้ชีวิตร่วมกันจนกลายเป็น “คู่ชีวิต” ที่ห่วงใยดูแลกันและกันจวบจนลมหายใจสุดท้าย
แต่คนบางคน … ที่เติบโตมาในครอบครัวที่ขาดความรักความอบอุ่น ไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่สื่อสารกัน ไม่มีความมั่นคงในอารมณ์และจิตใจ เติบโตมาแบบโดดเดี่ยว เหงา เศร้า ต้องต่อสู้ดิ้นรน เพื่อความอยู่รอด ชีวิตก็จะนึกถึงแต่ตนเอง (Self Center) หรือ อัตตศูนย์นิยม (Egocentrism) คือ ตัวกูของกู มี Ego Personality คือใช้ตัวตน เหตุผล ศักดิ์ศรี ภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ไม่เคยนึกถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่น จึงยากที่จะสร้างความสัมพันธ์กับใครได้ เมื่อมาคบกับใครก็จะคิดว่ามีแค่ “เธอ” กับ “ฉัน” แต่ไม่เคยมีคำว่า “เรา“ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างรับผิดชอบ ไม่ต้องห่วงใยดูแลกัน ไม่จำเป็นต้องรู้สถานะที่แน่ชัด ไม่มีความผูกพันทางอารมณ์ ไม่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบชีวิตของกันและกัน สามารถแยกจากกันได้โดยไม่รู้สึกอะไร แค่ไปหาเหยื่อใหม่ที่พร้อมจะรับรูปแบบความสัมพันธ์ที่คลุมเครือได้
หากใครไม่สามารถรับความสัมพันธ์แบบคลุมเครือได้ก็จะกลายเป็นปัญหา ยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านั้น หรือมีความคิดที่ไม่ตรงกัน ทะเลาะกัน อยู่ใกล้กันเหมือนห่างไกลกัน อยู่ด้วยกันแต่ทำไมถึงรู้สึกเหงาเศร้าเหลือเกิน หากเกิดอารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตกลายเป็นคนที่ไม่มีความมั่นคงในอารมณ์ กระทบต่อหน้าที่การงานและการดำเนินชีวิต ดังนั้นควรจะ
1.ถามใจ : ต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตนเอง ถามใจตนเองว่าเราต้องการสถานะความสัมพันธ์แบบไหน แค่พอใจกับความสัมพันธ์แบบคลุมเครือ หรือต้องการความสัมพันธ์ที่ชัดเจนและมั่นคง
2.เปิดใจ : ต้องสื่อสารกัน “พูดกัน + ฟังกัน + เข้าใจกัน” เพื่อสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของกันและกัน จะได้ตัดสินใจได้ว่าจะไปต่อหรือพอกันที
3.ดูแลใจตนเอง : อย่าลดทอน “คุณค่า” (Value) ในตนเอง ต้องรักษาความภาคภูมิใจ (Self Esteem) ของตนเอง หากอีกฝ่ายหนึ่งไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่ชัดเจนและมั่นคงต่อไปได้ ก็ต้อง “ตัดและปล่อย” แค่แยกย้ายให้ “โอกาส” ตนเองไปหาคนที่ “ชอบและใช่” ที่พร้อมจะมาเติมเต็มความสุขให้กันและกันทุกวัน
❤️ พิชญานิน คลินิก (คลินิกสุขภาพใจ) ชั้น 3 ศูนย์การค้า พาราไดซ์พาร์ค (สวนหลวง ร.9) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 20.00 น.
☎️ inbox ขอคำปรึกษาหรือทำนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 06-3868-9925 หรือ LINE: @pichayaninclinic / Line https://lin.ee/GiDkelu หรือ Website www.pichayaninclinic.com