เจาะข่าวดัง … เมื่อสื่อให้ความสนใจสอบถามกันมามากว่า ทำไมผู้หญิง (สีกา) คนหนึ่งสามารถทำให้พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์หลายรูปต้องหลุดพ้นจากเพศบรรพชิต พร้อมมีหลักฐานการฟ้องด้วยภาพและคลิปต่าง ๆ ที่มีพฤติกรรมการยั่วยุทางกามารมณ์ ฯลฯ ทำให้พระสงฆ์หลงผิด เสื่อมในวัตรปฏิบัติ และต้องลาสิกขา จึงมีคำถามว่า สีกาล่าแต้มพระสงฆ์เพราะป่วยจิต หรือ เป็นพวกมิจฉาชีพที่ต้องการแบล็คเมล์รีดไถเงิน

ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของผู้หญิงที่เป็นข่าว แต่จะชี้ให้เห็นกรณีศึกษา (case study) ในมุมของจิตวิเคราะห์ (Psychoanalytic Perspective) ทั้งระดับบุคคล หรือ ปัจเจกจิต (individual psyche) และจิตไร้สำนึกทางวัฒนธรรม (cultural unconscious) ดังนี้:

1. ปมแม่ (Mother Complex หรือ Mazakon) หากพระสงฆ์มีปมกับแม่ เช่น ติดแม่เพราะมีความรักความผูกพันที่มากเกินไป หรือการขาดแม่ในวัยเด็ก (Oedipus Complex) จึงต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ในขณะที่ผู้หญิงพยายามจี้จุดอ่อนซึ่งเป็นปมในใจจะยิ่งไปกระตุ้นความรู้สึกนี้ทำให้พระสงฆ์รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย แบบเดียวกับที่อยู่กับแม่ จึงกลายเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้งจนควบคุมตนเองไม่ได้
2. จิตไร้สำนึกของสังคมไทย : วัฒนธรรมไทยให้ภาพพระสงฆ์ คือ ผู้บริสุทธิ์ และ ผู้หญิง คือ ภัย ภาพนี้จึงกลายเป็นบทบาททางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อความคิด ความเชื่อ ค่านิยม หรือแม้แต่ความรู้สึกต่าง ๆ ดังนั้น พระสงฆ์จะต้องมีสติเท่าทันและแปลงแรงขับเคลื่อนภายในเชิงลบ (Instinctual Drives) ไปสู่แรงขับเคลื่อนภายในที่สูงขึ้นและเป็นที่ยอมรับของสังคม (Sublimation) เช่น การสวดมนต์ การปฏิบัติธรรมขั้นสูง ฯลฯ ซึ่งเป็นแรงขับระดับซูเปอร์อีโก้ (Super-ego) หรือ กรอบศีลธรรม ที่สามารถชนะกิเลสในใจตน ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่
3. แรงขับเคลื่อนทางเพศ (Sexual Drive) จากจิตใต้สำนึก
   • พระสงฆ์ แม้จะปลงสังขารและรักษาศีล แต่ยังคงมีแรงขับทางเพศ (Libido) ที่ถูกกดทับ (Repressed) เอาไว้
   • ผู้หญิง เป็น “Object of Desire” ที่แสดงออกถึงเสน่ห์หรือมีพฤติกรรมที่ปลุกเร้า ยั่วยวนจิตใจ
   • เมื่อผู้หญิงพยายามเข้าหาจึงกลายเป็นแรงขับที่ถูกกระตุ้นซ้ำ ๆ ทำให้พระสงฆ์พลาดและพ่ายแพ้ต่อกิเลส จากความขัดแย้งภายในจิตใจ (Ego vs Id) ระหว่าง สิ่งที่ควร (ใช้เหตุผล) และสิ่งที่ไม่ควร (สัญชาตญาณความต้องการทางเพศ) จึงเกิดการล่วงละเมิดวินัยสงฆ์ (Acting Out) เช่น การเสพเมถุนกับสีกา ฯลฯ
4. ผู้หญิง หรือ นารี เป็นภาพแทนของแม่ (Anima) ไม่ใช่แค่เพศหญิงที่อยู่ในผู้ชาย แต่เป็นพลังที่ขับเคลื่อนและหล่อหลอมด้านอารมณ์ ความรู้สึก และความสัมพันธ์ในระดับจิตไร้สำนึกของผู้ชาย (พระสงฆ์) ที่มีภาพแทนของความเป็นหญิง เมื่อพบผู้หญิงที่สอดคล้องกับภาพในจินตนาการนี้ อาจเกิดความหลงใหลอย่างรุนแรง ยิ่งผู้หญิงแสดงออกแบบ “หญิงในอุดมคติ” เช่น อ่อนโยน เข้าอกเข้าใจ แสดงความพึงพอใจ มีการสัมผัสกัน (Skinship) ก็ยิ่งกระตุ้นกิเลสส่วนลึกในจิตใจของพระสงฆ์จนเกิดการเสพติดได้ง่าย
5. การกบฏต่อความรู้สึก (Rebellion) การบวชอาจเป็นการกดทับตนเองไว้ในระบบศีลธรรมและกรอบวินัยที่เข้มงวด เมื่อผู้หญิงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ (Symbol) ของ “อิสรภาพ ความสุข หรือการหลุดพ้นจากความกดดัน” ผู้หญิงจึงเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ขาดสติและกลายเป็น “ทางออก” แม้จะผิดศีลก็ยอม
6. ด้านจิตวิทยาของผู้หญิง : เมื่อผู้หญิงพยายามที่จะเข้าใกล้พระสงฆ์ผู้มีสมณศักดิ์ ย่อมมีเจตนาลึก ๆ และมีแรงจูงใจในการหวังผลของการกระทำโดยไม่สนใจศีลธรรม เช่น:
   • ต้องการมีอำนาจเหนือเพศชายที่สูงส่ง
   • มีปมในใจเกี่ยวกับผู้ชายที่ “ดีเกินไป” หรือ “เอื้อมไม่ถึง”
   • การครอบครองพระสงฆ์ อาจเป็นการท้าทายศีลธรรม หรือเป็นการเติมเต็มความรู้สึกที่เหนือคนอื่น (Winner & Loser) ซึ่งไม่มีใครกล้าคิดกล้าทำเช่นนี้
   • มิจฉาชีพ : ผู้หญิงที่ต้องการใช้ชีวิตหรูหราสุขสบาย จึงมีการวางแผนหากลุ่มเป้าหมายหรือเหยื่อที่เป็นพระสงฆ์ผู้มีสมณศักดิ์ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ มีคนเลื่อมใสศรัทธา มีคนมาบริจาคทรัพย์ ฯลฯ จึงมีการถ่ายภาพและคลิปต่าง ๆ มากมายเก็บไว้แบล็คเมล์รีดไถเงิน/ฟอกเงิน หากพระสงฆ์ไม่ทำตามที่สั่งก็จะถูกปล่อยภาพและคลิปฉาวออกมาประจาน จึงต้องยอมเพราะกลัวจะถูกสังคมประนามมากกว่าผู้ชายกลุ่มอื่นๆ จนกลายเป็น “วงจรอุบาทว์” ไว้ใช้ข่มขู่เพื่อรีดทรัพย์เหยื่อเก่ามาหลอกล่อเหยื่อใหม่รายต่อ ๆ ไป

สรุป : การถอดบทเรียน “นารีพิฆาตพระสงฆ์” ในเชิงจิตวิเคราะห์ ผู้หญิงเป็นคนที่มีปัญหา มีปมในจิตใจ ขาดความรักความอบอุ่น ขาดการอบรมเลี้ยงดูเรื่องศีลธรรม รู้สึกด้อยค่า (Inferiority Complex) เลยพยายาม “ยกระดับตนเอง” ด้วยการเอาชนะคนที่สูงส่ง กลายเป็นผู้หญิงลวงโลก (femme fatale) ที่ทำทุกวิถีทางให้ได้สิ่งที่ต้องการโดยไร้ศีลธรรม ขาดจิตสำนึก ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เช่น การสร้างภาพความร่ำรวย ทำงานสายบุญสนับสนุนพุทธศาสนา ฯลฯ พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นความผิดปกติ จำเป็นจะต้องพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาและทำจิตบำบัดเพื่อหยุดพฤติกรรมที่สร้างปัญหาให้กับตนเองและป้องกันภัยที่ส่งผลเสียต่อสังคม