ปัจจุบันมีคนมาขอรับคำปรึกษาเรื่องภาวะเครียดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สาเหตุหนึ่งมาจากเด็กที่จบใหม่ตกงาน แม้จะจบมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศด้วยเกรดเฉลี่ยระดับเหรียญทองเกียรตินิยมอันดับหนึ่งก็ยังตกงาน สร้างความกดดันและความเครียดให้กับเด็กและพ่อแม่ผู้ปกครอง
เนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคหลังวิกฤต Covid-19 ที่ทำให้องค์กรส่วนใหญ่ถอดบทเรียนการพิจารณารับคนเข้าทำงาน ซึ่งในอดีตองค์กรส่วนใหญ่จะพิจารณารับคนเข้าทำงานจาก “วุฒิการศึกษา” (Degree-Based) แต่ปัจจุบันหลายองค์กรมีการพิจารณาโดยยึด “ความสามารถ” (Competency-Based) ในการยอมรับ ปรับตัว และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงได้ดี เพราะความรู้ทางวิชาการที่ได้เรียนจากรั้วมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียวอาจ “ไม่เพียงพอ” สำหรับการทำงานในโลกยุคดิจิทัล
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เด็กจบใหม่เสี่ยงต่อการตกงานสูงถึง 89% ผลสำรวจผู้บริหารมากกว่าครึ่งมองว่า 60% เด็กจบใหม่ยังขาดประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง 51% ไม่มีทักษะที่เหมาะสม 55%ขาดทักษะการทำงานเป็นทีม และ 50% มีมารยาททางธุรกิจที่ไม่ดีนัก ทั้งนี้ ผลการสำรวจผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคลในสหรัฐอเมริกา ของ Hult International Business School ร่วมกับ Workplace Intelligence พบว่า ผู้บริหาร กว่า 89% มีแนวโน้มที่จะเลี่ยงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่
สำหรับค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยของภาคเอกชนมีการปรับเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมแรงงานในระบบมีค่าจ้าง 15,565 บาท/คน/เดือน เพิ่มขึ้น 2.4% และแรงงานภาคเอกชน 14,273 บาท/คน/เดือน เพิ่มขึ้น 3.5% ซึ่งอาจไม่เพียงพอกับเด็กจบใหม่ที่มีความต้องการในการจับจ่ายสูง เช่น เช่าคอนโด, ผ่อนรถ, ใช้ของแบรนด์เนม, ชีวิตติดหรูอยู่สบาย ฯลฯ เนื่องจากเด็กจบใหม่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องวิธีการบริหารจัดการหรือวางแผนการเงินที่ดี จึงสร้างภาระหนี้สินโดยไม่จำเป็น ก่อให้เกิดความเครียด ทุกข์ใจ เศร้าใจ ซึมเศร้า ส่งผลเสียกระทบต่อการทำงานและโดนไล่ออก เสียประวัติ เสียความมั่นใจ
ดังนั้น การผลิตนิสิตนักศึกษานอกจากความรู้ทาง “วิชาการ” แล้วมหาวิทยาลัยจะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่อง “วิชาชีวิต” โดยเฉพาะด้านทักษะชีวิตและทักษะที่จำเป็นต่อตลาดแรงงานรวมทั้งทัศนคติการทำงานในโลกยุคดิจิทัล เพื่อสร้างมุมมองในการยอมรับ ปรับตัว และ ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเองผ่านประสบการณ์จริง
*เครดิตข้อมูลจาก Thai PBS วันที่ 9 มิถุนายน 2568 จาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/353026
❤️ พิชญานิน คลินิก (คลินิกสุขภาพใจ) ชั้น 3 ศูนย์การค้า พาราไดซ์พาร์ค (สวนหลวง ร.9) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 20.00 น.
☎️ inbox ขอคำปรึกษาหรือทำนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 06-3868-9925 หรือ LINE: @pichayaninclinic / Line https://lin.ee/GiDkelu หรือ Website www.pichayaninclinic.com