เมื่อสื่อสอบถามกรณีที่มีเด็กนักเรียน ม.5 ได้คะแนนสอบ 18/20 ไม่พอใจและมีการทำร้ายครูอย่างรุนแรงเกินเหตุนั้น … ป่วยทางจิตหรือไม่?

ในมุมมองจิตวิเคราะห์ เด็กมี IQ (Intelligence Quotient) หรือ สติปัญญาดี แต่มีปัญหา EQ (Emotional Quotient) หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ และจัดการอารมณ์ของตนเอง หากเด็กเคยมีประวัติการแสดงอารมณ์และพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงมาก่อน พ่อแม่หรือผู้ปกครองจะต้องพาไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและให้การบำบัดรักษา ดังนั้น “การลาออก” ไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เป็นการหนีปัญหา (Avoidance Coping) เพื่อไปสร้างปัญหาใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิม เป็นภัยอันตรายทั้งต่อตัวเด็กเอง ครอบครัว และสังคม

🔥 เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างรุนแรงเช่นนี้ อาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ดังนี้

1. ปัจจัยภายในตัวบุคคลที่มีผลต่อพฤติกรรม (Intrapersonal factors) เช่น โรคดื้อรั้นต่อต้าน (Oppositional Defiant Disorder : ODD), โรคความผิดปกติทางพฤติกรรมก้าวร้าว (Conduct Disorder : CD), โรคระเบิดอารมณ์เป็นครั้งคราว (Intermittent Explosive Disorder : IED) เป็นต้น
2. ปัจจัยจากครอบครัว (Family factors) : พ่อแม่ (Toxic Parent) เป็นต้นแบบของพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต อารมณ์ และบุคลิกภาพของลูกอย่างต่อเนื่อง มีปัญหาความสัมพันธ์และรู้สึกไม่ปลอดภัยทางอารมณ์ เช่น ควบคุมมากเกินไป (Over-controlling) ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจ ชอบวิจารณ์เปรียบเทียบลูกกับคนอื่น มีความคาดหวังสูงเกินจริงทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยดีพอ ไม่รับฟังหรือไม่ยอมรับความรู้สึกของลูก สร้างความรู้สึกผิดหวังและสร้างความกดดันทางอารมณ์ที่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง อีกทั้งไม่เป็นแบบอย่างของการสื่อสารที่ดี, คนในครอบครัวเป็นแบบอย่างการใช้ความก้าวร้าวรุนแรงกัน, ถูกเลี้ยงดูและลงโทษอย่างรุนแรง ฯลฯ
3. ปัจจัยจากโรงเรียน (School factors) เช่น มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างครูกับนักเรียน, เพื่อนกับเพื่อน, ปัญหาที่สร้างความกดดันต่าง ๆ ฯลฯ

🎯 แนวทางการช่วยเหลือ : ควรปรึกษาจิตแพทย์ ตรวจ ประเมิน หาสาเหตุและวางแผนการบำบัดรักษาก่อนจะสายเกินเยียวยา เช่น การให้ยาช่วยควบคุมอารมณ์, จิตบำบัด, พฤติกรรมบำบัด, ครอบครัวบำบัด เป็นต้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการแสดงอารมณ์และพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงที่เป็นภัยทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย เช่น การทำร้ายผู้อื่น, อาชญากรรมอื่น ๆ เป็นต้น