การสื่อสาร ... นอกจากภาษาประจำชาติแล้ว หลายคนก็ยังสื่อสารได้อีกหลายภาษา ไม่ว่าจะพูดภาษาอะไรก็ตาม อย่าลืมที่จะพูด "ภาษารัก" ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะหนุ่มสาวที่เป็นคู่รักกัน เพราะความสัมพันธ์ของคนทุกเพศทุกวัยต่างก็ต้องการความรักกันทุกคน เช่น สามีกับภริยา, พ่อแม่กับลูก, ปู่ย่าตายายกับลูกหลาน, พี่กับน้อง, ครูกับศิษย์, เจ้านายกับลูกน้อง, เพื่อนกับเพื่อน ฯลฯ
Dr. Gary Chapman แนะนำวิธีสื่อภาษารักง่ายๆ 5 แบบ คือ
- Words of Affirmation : บอกรักด้วยคำพูด เพื่อแสดงความรู้สึกภูมิใจ ชื่นชม และเห็นคุณค่าของกันและกัน เช่น พ่อแม่บอกรักลูก และ ชื่นชมที่ลูกเป็นเด็กดี, ภริยาชื่นชมที่สามียังขับรถรับ-ส่ง, สามีรู้สึกขอบคุณที่ภริยาเสียสละอุ้มท้องลูกนานถึงเก้าเดือน เป็นต้น
- Quality Time : บอกรักด้วยการใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน เพื่อแสดงถึงความรัก ความผูกพัน และเก็บเกี่ยววันเวลาที่ดีร่วมกัน เช่น ชวนกันไปท่องเที่ยว, ออกกำลังกาย, เข้าครัวช่วยกันทำอาหาร, ปลูกดอกไม้, ปลูกผักทำสวน, พาปู่ย่าตายายไปไหว้พระ ทำบุญ ทำทาน เป็นต้น
- Receiving Gifts : บอกรักด้วยการมอบของขวัญหรือของฝาก เพื่อแสดงความคิดถึงกัน เช่น สามีไปประชุมที่ต่างจังหวัดก็จะซื้อของอร่อยที่ขึ้นชื่อประจำจังหวัดมาฝาก, ลูกมอบเงินเดือนเดือนแรกจากการทำงานให้คุณพ่อคุณแม่, ศิษย์ร้อยมาลัยมากราบคุณครู เป็นต้น
- Acts of Services : บอกรักด้วยการกระทำ เพื่อแสดงให้เห็นว่ารู้สึกรักและห่วงใย เช่น สามีช่วยเลี้ยงลูก, ลูกช่วยทำความสะอาดบ้าน, พ่อและแม่ไปร่วมกิจกรรมกับลูกที่โรงเรียน เป็นต้น
- Physical Touch : บอกรักด้วยการสัมผัสทางกาย เช่น พ่อแม่กอดและหอมแก้มลูก, สามีจูงมือภริยาข้ามถนน, ภริยาช่วยบีบนวดให้สามี, สามีลูบผมภริยาเบาๆ เพื่อแสดงถึงความรักใคร่เอ็นดู เป็นต้น
ทั้งนี้ แต่ละคนอาจจะเติบโตมาบนพื้นฐานครอบครัวที่ใช้ภาษารักที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่เคยสัมผัส ไม่เคยรู้จัก แต่ "ไม่เคย ... ไม่ใช่ไม่ต้องการ" หลายคนรู้สึกโดดเดี่ยวและโหยหาภาษารักจากใครบางคน หลายคนสงสัยในสิ่งที่พูดว่ารักแต่จะเชื่อใจจากการพูดแล้วกระทำ → ดังนั้น อย่าเขินอายที่จะเป็นฝ่ายเริ่ม และลองนำไปปรับใช้กับคนที่เรารักแล้วคุณจะรู้ว่าภาษารักมัน "มีคุณค่าและทรงพลัง" ช่วยสร้างกำลังใจและความ "สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ" 👬👫👭