คุณพ่อคุณแม่หลายคนสอบถามมาว่า เวลาที่ลูกร้องไห้ ควรจะปลอบ หรือ ควรจะปล่อย ถ้าปลอบก็กลัวลูกจะติดมือ หรือกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเอง
เวลาลูกร้องไห้ ... คุณพ่อคุณแม่ควรจะปลอบโยน และหาสาเหตุ เช่น หิว ปวดท้อง มดกัด ฯลฯ เพราะการปลอบโยนและการใส่ใจลูกนั้น จะส่งผลดีทางด้านพฤติกรรมในระยะยาว เด็กที่ได้รับการปลอบโยนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางอารมณ์ เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีคุณภาพ และสร้างครอบครัวที่อบอุ่นได้
ในกรณีที่ลูกร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผลหรือเอาแต่ใจ คุณพ่อคุณแม่ก็ "ควรจะปลอบ" และตอบสนองความรู้สึกของลูกทุกครั้ง เมื่อลูกสงบ ... จึงค่อยสอนลูกด้วยความเข้าใจ ไม่ลงโทษ เพื่อที่ลูกได้เรียนรู้การแสดงความรู้สึกและอารมณ์อย่างเหมาะสม จะได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และมีความสุข
ต่างกับคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงดูลูกแบบทิ้งขว้าง ปล่อยให้ลูกร้องจนไม่มีเสียง เหนื่อย หอบ เกิดความเครียดจนร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางร่างกาย และส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ลูกจึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นเด็กที่หวาดกลัว รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่มีความมั่นใจ ไม่ไว้ใจใคร จะแยกตัวหรือเก็บตัว ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ โดดเดี่ยว เหงา และมีโอกาสป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้