สถาบันหรือองค์กรระดับโลกจะให้ความสำคัญกับการคัดเลือกบุคลากรที่เป็นทั้ง “คนเก่งและคนดี” ซึ่งหาไม่ง่าย เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เมื่อหา “คนที่ใช่” ได้ แต่ทำไมถึงรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กรไม่ได้ เพราะคนที่เก่งจริงจะเป็นคนเลือกว่าจะอยู่หรือทำงานกับองค์กรไหนเช่นกัน
องค์กรระดับโลกจึงให้ความสำคัญและอยากทราบเหตุผลที่พนักงานลาออกเพื่อนำมาปรับปรุงและหาวิธีการรักษาคนเก่งซึ่งเป็นสินทรัพย์ (Human Asset) ที่มีค่าให้อยู่กับองค์กรได้ยาวนานที่สุด แต่เหตุผลส่วนใหญ่ที่พนักงานให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกมักจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง (Exit Interview) เพราะไม่เชื่อใจและไม่มั่นใจคนสัมภาษณ์ที่ไม่เป็นกลาง ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา จึงให้คำตอบแบบสวยๆ ให้จบหน้าที่จะได้รับเงินเดือนก้อนสุดท้าย เช่น ลาออกไปเรียนต่อ (ใฝ่รู้ใฝ่เรียน, รักอนาคต) ต้องไปดูแลครอบครัว (คนกตัญญู), บ้านไกลเดินทางไม่สะดวก (อินดี้), ไม่มี Work-Life Balance (work SMART) เป็นต้น แต่สาเหตุที่แท้จริงที่หลายคนไม่พูด คือ เรื่องคน (Toxic People) โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็น “เจ้านาย” ที่ไม่มีภาวะผู้นำ ไม่เก่ง แต่ยังกร่าง หยาบคาย เหยียด เลีย แหล๋ เอาความดีเข้าตัวเอาความชั่วให้ลูกน้อง ฯลฯ หลายคนจึงตัดสินใจลาออกไปหานายใหม่ ซึ่งไม่ต่างกับ “กบเลือกนาย” ในที่สุดแล้วก็ได้นายที่เป็นกบเหมือนเดิม ไม่มีนายคนไหนที่ถูกใจเราทุกอย่าง คนที่เป็นนายคงต้องมีอะไรดีถึงได้เป็นนายคนอื่นได้ ถึงเขาไม่เก่งคนก็เก่งงาน ถ้าไม่เก่งงานก็เก่งคน สามารถสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นได้ → คนเก่งที่ฉลาด ... จึงต้องเรียนรู้และฝึกการทำงานกับ “นายทุกรูปแบบ” ให้ “อยู่รอดและอยู่รุ่ง” ได้
ดังนั้น ... เจ้านายและลูกน้องต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต่างกันแค่บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ ทั้งเจ้านายและลูกน้องต้องฝึกที่จะ “เอาใจเขา … มาใส่ใจเรา” ให้เกียรติกัน สื่อสารกัน ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขและมีความเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน