พลโท นายแพทย์พิชัย - ดร.อัญชลี แสงชาญชัย พร้อมคณะแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ “พิชญานิน คลินิก” ร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็น “วันนวมินทรมหาราช” เพื่อน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นองค์พระมหากษัตริย์ผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตา ปัญญา และความเข้าใจในจิตใจของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทของพระองค์มิได้เป็นเพียงถ้อยคำแห่งการปกครอง หากแต่แฝงไว้ด้วยหลักจิตวิทยาที่ทรงคุณค่ายิ่งต่อการพัฒนามนุษย์และเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ทั้งทางโลกและทางธรรม

ขอเผยแพร่พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทด้านจิตวิทยา ซึ่งเป็นแสงนำทางแห่งพระราชปัญญา

• 💛 ๑. “ความสุขจากการให้” => “ความสุขนั้นไม่ได้อยู่ที่การมีมาก แต่อยู่ที่การให้และการเห็นผู้อื่นมีความสุข” สะท้อนหลักจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychology) ที่มองว่าความสุขแท้เกิดจาก “ความหมาย” (Meaning) และ “การเชื่อมโยงกับผู้อื่น” (Connection) คุณค่าของการแบ่งปันและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ใช่เพียงวัตถุหรือผลประโยชน์ส่วนตน การมีเมตตากรุณาและเอื้อเฟื้อต่อกัน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน คือ พลังอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยเติมพลังกาย พลังใจ พลังสติปัญญา ในการช่วยเหลือผู้อื่นและความสุขที่ได้เห็นผู้อื่นมีความสุข
• 💛 ๒. “การรู้จักตนเอง” => “การทำงานใด ๆ ถ้าไม่รู้จักตนเอง ก็ยากที่จะรู้จักผู้อื่น และยากที่จะเข้าใจงานนั้นอย่างแท้จริง” เป็นหัวใจของจิตวิทยาพัฒนาตน (Self-Awareness) และสติปัญญาทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) เป็นรากฐานของภาวะผู้นำและสุขภาวะทางใจ การรู้จักตนเองคือการเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน ความถนัด ความสามารถ และข้อจำกัดของตนเอง รวมถึงการมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ ส่วนการรู้จักผู้อื่นทั้งในแง่ของบุคลิกภาพ ความคิด และวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน ”การเข้าใจตน… เข้าใจคน … เข้าใจงาน“ จะช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลสงบสุข
• 💛 ๓. “ขาดทุน คือ กำไร” => สะท้อนให้เห็นจิตวิทยาแห่งการมองโลกเชิงบวก (Positive Psychology) มนุษย์ที่มองสถานการณ์ในมุมบวกจะมีความยืดหยุ่นทางใจสูงกว่า (Resilience) ไม่ท้อถอยง่าย และสามารถเปลี่ยนประสบการณ์เชิงลบให้เป็นแรงในการเรียนรู้ อีกทั้งการเสียสละ (Altruism Psychology) ซึ่ง “การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน” (Unconditional Giving) ช่วยกระตุ้นสมองส่วนที่หลั่ง โดพามีน (Dopamine) และ ออกซิโทซิน (Oxytocin) ทำให้เกิดความสุขเชิงคุณค่า (Eudaimonic Happiness) จากการทำสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์นั่นคือกำไรที่แท้จริง ไม่ใช่เพียง “ความสุขแบบชั่วคราว (Hedonic Happiness) ที่ได้มาจากผลกำไรทางวัตถุ ดังนั้น การขาดทุนที่มาจากการช่วยเหลือผู้อื่น คือ การเติบโตของ “คุณค่าภายใน (Inner Value)” ซึ่งเป็นความสุขเชิงจิตวิญญาณที่ยั่งยืน
• 💛 ๔. “การอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและเอื้ออาทร” => “คนเราจะอยู่ร่วมกันได้ ต้องเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และช่วยเหลือกัน” สะท้อนหลักความเห็นอกเห็นใจกัน (Empathy) ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมที่มีสุขภาวะจิตที่ดี ทำให้คนในชาติรู้รักสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันด้วยความจริงใจ มุ่งหวังดีต่อกัน เพื่อสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยไมตรีจิตและมิตรภาพ
• 💛 ๕. “การพัฒนาคนจากภายใน” => “การพัฒนาประเทศที่แท้จริง ต้องเริ่มที่การพัฒนาคน … เมื่อคนมีจิตใจที่ดีแล้ว ทุกอย่างก็จะดีตามมา” => ตรงกับแนวคิดจิตวิทยามนุษยนิยม (Humanistic Psychology) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพภายในของมนุษย์ เพื่อให้เติบโตอย่างมีคุณค่าและมีความหมายในชีวิต โดยเน้นการสร้างความเข้มแข็ง ความเข้าใจ การพึ่งพาตนเอง เพื่อให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองและรับการพัฒนาจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะนำความเจริญจากภายนอกเข้าไปโดยที่ผู้รับยังไม่พร้อม