แฟนไม่สนใจ แฟนทำตัวไม่เหมือนเดิม แฟนมีความลับ และอีกสารพัดปัญหาความรักที่เรามักได้ยินบ่อย ๆ จากคนมีคู่ ทั้งจากเพื่อนรอบตัว หัวข้อเด็ดในกระทู้ดัง ไปจนถึงเรื่องราวดราม่าทั้งหลายที่มีคนโทรเข้ามาปรึกษาพิธีกรในรายการดังเต็มไปหมด ก็ทำให้น่าคิดตามเหมือนกันว่า ถ้าไม่ใช่พี่อ้อย พี่ฉอด ใครกันนะที่จะให้คำปรึกษาปัญหาความรักที่ดีที่สุดกับเราได้? คำตอบก็คือ การปรึกษาจิตแพทย์นั่นเอง เพราะบางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ก็อาจจะไม่ได้มาจาก ‘เรื่องแค่นี้’ แต่จริง ๆ แล้วมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่มากกว่านั้นที่ทำให้คนคนหนึ่งคิด ตัดสินใจ และเลือกที่จะแสดงอารมณ์แบบนั้นออกมา อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่ามีหลายคนที่เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพฤติกรรมแบบไหนคือไม่ปกติ พฤติกรรมแบบไหนที่ควรปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อช่วยให้ทุกคนเข้าใจความรักและความสัมพันธ์ได้ดีขึ้น
ในบทความนี้จึงได้รวบรวม 5 สัญญาณรักพัง ที่ยิ่งปรึกษาจิตแพทย์เร็วเท่าไร ยิ่งแก้ไขได้เร็ว มาเป็นตัวอย่างให้ทุกคนลองสังเกตคู่ของตัวเองกัน ว่าสิ่งที่เป็นคือปัญหาธรรมดาของคนมีความรัก หรือเป็นปัญหาที่ควรปรึกษาจิตแพทย์กันแน่
ทำความรู้จัก 5 เรื่องราวปัญหาความรัก ที่สามารถแก้ไขได้ หากปรึกษาจิตแพทย์
- สื่อสารกันน้อยลง หรือสื่อสารเท่าไรก็มีแต่อารมณ์ด้านลบส่งกลับมา
การพูดคุยกันนับเป็นหนึ่งในกิจวัตรของคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตชีวิตการทำงาน อัปเดทสิ่งที่กำลังทำ หรือเวลาเจออะไรสวย ๆ หรือสิ่งที่คู่รักของตัวเองชอบก็อยากจะถ่ายเก็บไว้ หรือใช้เป็นหัวข้อสนทนาใหม่ ๆ ในทุกวัน แต่ถ้าวันหนึ่งทั้งสองคนเริ่มคุยกันน้อยลงเรื่อย ๆ เริ่มไม่มีสิ่งที่อยากเล่า เริ่มขาดความสนใจในความชอบของอีกฝ่าย หรือที่แย่ไปกว่านั้น คือทุกครั้งที่พูดคุยกันมักจะจบลงด้วยการทะเลาะเสมอ หากสิ่งนี้เริ่มเกิดขึ้นกับคู่ของคุณ นั่นหมายความว่าควรเริ่มปรึกษาจิตแพทย์ เพราะจิตแพทย์จะเข้ามาวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกแบบนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและกลับมาพูดคุยกันดังเดิมได้อีกครั้ง
- เมื่อมีการ ‘เสพติด’ ที่มากเกินไป
การเสพติดที่ว่านี้มีความหมายตรงตัวเลย นั่นก็คือเสพติดการทำงาน เสพติดเซ็กส์ รวมไปถึงการเสพติดด้านอื่น ๆ เพราะการเสพติด หรือหมกมุ่นในบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป ย่อมทำให้ชีวิตรักเกิดปัญหาได้อย่างแน่นอน ดังนั้นการปรึกษาจิตแพทย์ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเมื่อชีวิตคู่มีปัญหาเหล่านี้เข้ามา เพราะจิตแพทย์จะช่วยประเมิน และรักษาภาวะการเสพติด ค้นหา และแก้ไขสาเหตุพื้นฐานทางจิตใจ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก รวมถึงช่วยสร้างแรงจูงใจให้เลิกพฤติกรรมเสี่ยงได้นั่นเอง
- เริ่มขาดความเชื่อมั่น และเชื่อใจในความสัมพันธ์
เมื่อคู่รักเริ่มขาดความเชื่อมั่น และความไว้วางใจต่อกัน เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงรากฐานของความสัมพันธ์ที่กำลังพังทลาย ความเชื่อมั่น และเชื่อใจคือพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ที่มั่นคง หากปราศจากสองสิ่งนี้แล้ว คู่รักจะมีแต่ความหวาดระแวง และสงสัย ทำให้ขาดความไว้วางใจ และไม่สามารถเปิดใจกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การนอกใจ การไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน การปิดบังความลับ หรือจากบาดแผลในอดีตที่ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ เมื่อถึงจุดนี้แล้ว คู่รักจำเป็นต้องเปิดใจพูดคุยถึงปัญหาให้กระจ่าง แต่ถ้าการพูดคุยกันเองยังไม่ได้ผล และทะเลาะกันหนักกว่าเดิม การปรึกษาจิตแพทย์จะช่วยคลี่คลายปัญหาได้ เพราะจิตแพทย์จะเข้ามาเป็นตัวกลางที่ไม่ตัดสินฝั่งใดฝั่งหนึ่ง พร้อมรับฟังปัญหาจากทั้งคู่ ก่อนจะออกแบบวิธีฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์
- รักเริ่มจืดจาง ขาดความหลงใหล และไม่สปาร์คกันเหมือนเก่า
หลังจากคบกันไปสักระยะหนึ่ง หลาย ๆ คู่อาจรู้สึกว่าความรักเริ่มจืดจางลงไปหรือเปล่า สิ่งที่เคยทำแล้วรู้สึกซู่ซ่าก็กลายเป็นความเคยชิน ซึ่งในความจริงแล้วความรู้สึกเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อเราเคยชินกับความสัมพันธ์ที่สบายใจ นอกเหนือจากความหลงใหล เราก็จะมีความผูกพันกันมากกว่าแทน ทว่าหากรักที่จืดจางนี้ไม่ได้มาเพราะเคยชิน หรือมาในเชิงบวกว่าเรามั่นคงกันดีแล้ว ทว่าเกิดจากความเบื่อหน่ายจากการอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน ปัญหาความขัดแย้ง การนอกใจ หรือแม้กระทั่งภาวะซึมเศร้าของคนใดคนหนึ่ง หากเป็นแบบนั้นควรรีบปรึกษาจิตแพทย์เพื่อแก้ไขอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์อาจสิ้นสุดลงก็เป็นได้ โดยการปรึกษาจิตแพทย์จะช่วยให้คู่รักเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง และหาวิธีกระตุ้นให้ความรัก ความหลงใหล และความรู้สึกโรแมนติกแบบคู่รักหวนกลับมาอีกครั้ง
- เมื่อตกลงเรื่องการ ‘เลี้ยงลูก’ ไม่ลงตัว
การเป็นคู่รักกันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนอีกต่อไป หากมีเจ้าตัวน้อยกลอยใจเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งในหลาย ๆ คู่ก็มักจะเกิดปัญหาความรักขึ้นมาหลังจากมีบุตร เพราะต่างคนต่างต้องปรับตัวเพื่อรับหน้าที่ใหม่อย่างการเป็นพ่อและแม่เต็มเวลา ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมเดิม ๆ ได้เหมือนเก่า เช่น ต้องมีคามรับผิดชอบมากขึ้น ต้องมีเวลาเลี้ยงลูก และยังต้องหาเงินมากขึ้นด้วย ฝั่งภรรยาเองก็มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนทำให้เสี่ยงต่อการเป็นซึมเศร้าหลังคลอดอีก เมื่อเป็นแบบนี้ก็ทำให้การใส่ใจในฐานะคู่รักลดลง รวมถึงอาจทะเลาะกันมากขึ้นด้วย หากบ้านไหนรู้สึกว่าไม่สามารถแบ่งหน้าที่การเลี้ยงลูกให้ลงตัวได้ หรือไม่สามารถจัดสรรเวลาส่วนตัวกับการดูแลลูกได้ การปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาทางออกร่วมกัน นับว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำจริง ๆ
ทั้งหมดนี้คือ 5 เรื่องราวปัญหาความรัก ที่สามารถแก้ไขได้ หากปรึกษาจิตแพทย์ หากใครรู้สึกว่าคู่ของตัวเองมีสัญญาณแปลก ๆ ตรงกับข้อไหน ก็อย่าลืมสังเกตความเปลี่ยนแปลง หากเห็นว่าเลวร้ายลงทุกที การเข้าคลินิกสุขภาพจิตเพื่อปรึกษาปัญหาความรักสามารถช่วยได้
ที่พิชญานินคลินิก คลินิกสุขภาพใจ ยินดีรับปรึกษาปัญหาความรัก ปรึกษาปัญหาโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคนอนไม่หลับ โรคสมาธิสั้น โรคแพนิค และปัญหาสุขภาพจิต จิตเวช จิตบำบัด ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บริการดูแลครอบคลุมทั้งบริการทางจิตเวชทั่วไปในเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ มีการตรวจประเมินสุขภาพจิตอย่างละเอียด ทั้งด้านการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ระบบประสาท และประเมินศักยภาพสมอง สามารถให้คำปรึกษาในกลุ่มอาการหลากหลายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของท่าน หรือคนที่ท่านรัก เพื่อเพิ่มสมาธิให้กับจิตใจ และทำให้คุณได้ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ในชีวิตมากขึ้น ผู้รับบริการจะได้รับความรู้ความเข้าใจในภาวะโรค และมีบทบาทในการวางแผนการรักษาร่วมกัน ทั้งในส่วนการรักษาด้วยยา และการทำจิตบำบัด
พิชญานิน คลินิก คลินิกสุขภาพใจ บริการวางแผนรักษาโรคทางจิตเวช
โทร. 063-868-9925, 02-853-3863
อีเมล pichayaninclinic@gmail.com